ผลที่ได้จากการเรียนวิชานี้

ผลที่ได้จากการเรียนวิชานี้มีดังนี้
1. ทำให้ได้เรียนรู้การจัดการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น
2. ทำให้ต้องupdateตัวเองมากขึ้นในการก้าวให้ทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราเก่งขึ้นในเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่ ภาคภูมิใจในตัวเอง
3. ได้ฝึกการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มีความรู้กว้างขวางยิ่งขึ้น
4. เกิดความเพียรพยายามในการค้นคว้าแหล่งข้อมูลและรักที่จะเรียนรู้ในโลกอินเทอร์เน็ต

ขอขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้พวกเราเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ค่ะ

สรุปผลการเรียนรู้ครั้งที่ 2 (บทที่3-6)

สรุปผลการเรียนรู้สัปดาห์ที่ 2
1.สามารถสร้างบล็อกได้
2.สามารถวิเคราะห์ SWOTได้
3.สรุปองค์ความรู้ที่ได้ดังนี้
บทที่3-4
การพัฒนาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนยุคปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงานต่างๆทั้งด้านการวางแผน การตัดสินใจและการดำเนินงาน ตามระดับการบริหารงานในองค์กรที่มีความสัมพันธ์กับระบบสารสนเทศ แต่ละระบบดังนี้
1.ระบบประมวลผลรายการ (TPS) สำหรับระดับปฏิบัติการ
2.ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ(MIS) สำหรับผู้บริหารระดับกลาง
3.ระบบสารสนเทศสำนักงาน (OIS) สำหรับศูนย์ข้อมูลรวมของสำนักงาน
4.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ(DSS) สำหรับผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง
5.ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูง(ESS) สำหรับผู้บริหารระดับสูง

ผู้บริหารควรให้ความสนใจกับในการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้การขับเคลื่อนองค์กรบรรลุเป้าหมายมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงจำเป็นต้องมีการจัดการความรู้ให้กับบุคลากรในองค์กรให้สามารถก้าวทันและนำมาสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ดังนั้น องค์กรจึงจำเป็นต้องมีการจัดการกลยุทธ์โดยกระบวนการวิเคราะห์SWOT นำผลการวิเคราะห์มากำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมาย โดยใช้ BALANCED SCORECARD ในการตวรจสอบ ที่สำคัญผู้บริหารต้องมีการบริหารการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้ทันเหตุการณ์
บทที่5-6
นวัตกรรม(Invation)หมายถึงการนำสิ่งใหม่ๆหรือการปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคน พัฒนางาน นวัตกรรมการศึกษาหมายถึงนวัตกรรมที่จะช่วยให้การศึกษาและการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งมีหลายประเภท เช่นนวัตกรรมด้านหลักสูตร นวัตกรรมการเรียนการสอน นวัตกรรมสื่อการ
สอนนวัตกรรมการประเมินผล นวัตกรรมการบริหารจัดการ โดยมีแนวคิดพื้นฐานในเรื่องของความแตกต่างระหว่างบุคคล ความพร้อม เวลา และประสิทธิภาพในการเรียน ในการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการนพัฒนานวัตกรรมมีองค์ประกอบ 5 ประการ คือ โครงสร้างองค์กร บุคลากร
กระบวนการ กลยุทธ์และยุทธวิธี และเครื่องมือและเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีปัจจัยใน3 ระดับคือความเป็นเลิศของบุคคล ความเป็นเลิศของทีมงาน และความเป็นเลิศขององค์กร บนหลักการ 5ประการ คือ นวัตกรรมเป็นเรื่องของความคิด เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ผู้บริหารสูงสุดต้องนำและรับผิดชอบต่อนวัตกรรม และผู้บริหารสูงสุดต้องผูกพันและแพร่กระจายนวัตกรรมไปยังบุคคลอื่น

การบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบันและอนาคต จำป็นต้องใช้นวัตกรรมใหม่ในองค์กร สร้างความคิดใหม่ให้เป็นทุนทางปัญญาโดยการวิจัยและพัฒนา คิดค้นสิ่งใหม่ตามความต้องการของลูกค้า

นวัตกรรมทางการศึกษามีการพัฒนาประยุกต์ใช้อย่างหลากหลายเช่นการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์(Web-Based Instruction)บทเรียนออนไลน์(e-Learning)โมบายเลิร์นนิ่ง(Mobile-Learning)สวนดุสิตอินเตอร์เน็ตบอรดคาสติ้ง(Suan Dusit Internet Broadcasting)ห้องสมุดเสมือน(Virtual Library) ซึ่งนวัตกรรมการศึกษาสามารถสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับผู้เรียนและประชาชนให้ได้ศึกษาหาความรู้ได้เต็มตามศักยภาพและไร้ขีดจำกัด

บทคัดย่องานวิจัย

บทคัดย่องานวิจัย

ผู้แต่ง นางสาวรุ่งนภา เลิศพัชรพงศ์
ชื่อเรื่อง ประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนประถมศึกษา:ศึกษาเฉพาะกรณีกลุ่มกรุงธนใต้ สังกัดกรุงเทพมหานคร
สาขา การบริหารการศึกษา
ปีการศึกษา 2544
สำนักพิมพ์ สถาบันราชภัฏสวนดุสิต
ปีที่พิมพ์ 2545
การศึกษาเรื่องประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียน ศึกษาเฉพาะกรณีกลุ่มกรุงธนใต้ สังกัดกรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนประถมศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนประถมศึกษาในงานต่างๆ ตลอดจนเปรียบเทียบประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนที่มีขนาด แตกต่างกัน โดยใช้วิธีการศึกษาจากผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาเป็นกลุ่มประชากร จำนวน 85 โรงเรียน ซึ่งประกอบด้วยโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เครื่องมือที่มีใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน t- test และ F- test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิผลการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนประถมศึกษากลุ่มกรุงธนใต้ สังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า ประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนในงานวิชาการ งานบุคลากร งานกิจการนักเรียน งานธุรการ การเงิน งานอาคารสถานที่ และงานความสัมพันธ์กับชุมชน มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการปฏิบัติงานทุกๆงาน มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานบริหารโรงเรียนที่มี ประสิทธิผลสูงในงานธุรการ การเงิน งานวิชาการ งานความสัมพันธ์กับชุมชน งานกิจการนักเรียน ส่วนประสิทธิผลการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานบุคลากร และงานอาคารสถานที่มีประสิทธิผลอยู่ในระดับปานกลาง
2. เปรียบเทียบประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารโรงเรียนในงานต่างๆ พบว่า ในงานทั้ง 6 งาน มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน กล่าวคือ ทุกๆ งานมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารงานใกล้เคียงกันทุกงาน
3. เปรียบเทียบประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารงานโรงเรียนประถมศึกษาที่มีขนาดแตกต่างกัน ผู้บริหารมีประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์และความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ พบว่าขนาดของโรงเรียน ผู้บริหารที่มีประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์และความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์มีประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหารงานโรงเรียนไม่แตกต่างกัน

เอกสารอ้างอิง
รุ่งนภา เลิศพัชรพงศ์.(2545).ประสิทธิผลการใช้คอมพิวเตอร์ในการบริหาร:ศึกษาเฉพาะโรงเรียนประถมศึกษากรณีกลุ่มกรุงธนใต้สังกัดกรุงเทพมหานคร.กรุงเทพมหานคร.สถาบันราชภัฏสวนดุสิต.

สิ่งที่ได้จากการศึกษาบทคัดย่อ
1.ทำให้ทราบวิธีการค้นคว้าหาแหล่งข้อมูล
2.ทำให้ทราบถึงรูปแบบของแบบคัดย่อ วิธีการเขียนบทคัดย่อ
3.ทำให้ทราบวิธีการเขียนเอกสารอ้างอิง การเขียนบรรณานุกรม
4.ทำให้ทราบกระบวนการของการวิจัยโดยย่อ ทราบผลการวิจัย